การฟื้นฟูสุขภาพกายและใจให้ ผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณ
เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงสูงวัย นอกจากสุขภาพร่างกายที่ย่ำแย่ อ่อนแอลงไปมากแล้ว ยังมีเรื่องของสุขภาพจิตเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งทำงานสัมพันธ์กันและส่งผลต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก หากอยากฟื้นฟูสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจควบคู่กันไป ก็สามารถทำได้เป็นประจำ โดยปฏิบัติดังต่อไปนี้
การออกกำลังกาย ผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณ
- การออกกำลังกายทำให้มีสุขภาพดี
- กล้ามเนื้อแข็งแรง
- ช่วยควบคุมน้ำหนักตัว และทรวดทรง
- ป้องกันโรคที่เกิดจาความเสื่อม
- โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคข้อเสื่อม
- ลด ความเครียด
- ช่วยสมรรถภาพทางเพศดีขึ้น
- ลดโรคที่เกิดจากความชรา
- ชะลอความเสื่อมของร่างกาย
- ทำให้หัวใจ หลอดเลือด และปอดแข็งแรง
- ช่วยให้การทรงตัวดีขึ้น
- ทำให้เดินเหินคล่องแคล่ว ไม่หกล้ม
- ทำให้กระดูกแข็งแรง
- ชะลอโรคกระดูกพรุน
-
-
-
- หลักการออกกำลังกายของ ผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณ
-
- ให้เริ่มออกแรงตามขีดความสามารถแล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้น
- การออกกำลังกายที่ใช้กำลังระดับปานกลางที่ทำให้หายใจแรงขึ้น
- ยังสามารถพูดคุยได้จบประโยค
- ระยะเวลาควรค่อยๆ เริ่มจากเวลาสั้นๆ และสะสมขึ้นเป็นระยะเวลา 30 นาทีต่อวัน
- หรืออาจจะแบ่งช่วงเวลาสั้นๆ ช่วงละ 10-15 นาทีก็ได้
- ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์
- ให้เคลื่อนไหวออกแรงในชีวิตประจำวันมากขึ้น เช่น ทำงานบ้าน เดินไปธุระ ทำสวน
- ทำกิจกรรมเหล่านี้อย่างน้อยวันละ 30 นาที
- ฝึกความแข็งแรงโดยเหยียดยืดกล้ามเนื้อก่อน
- แต่ถ้าทรงตัวดีแล้วพิจารณาเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกได้
- และควรฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในท่านั่ง ได้แก่ การเหยียดคอ ข้อเท้า หลังและเข่า เตะเท้า ยกแขน เป็นต้น
- ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในท่ายืน ได้แก่ การเหยียดน่อง เขย่งปลายเท้าสลับยืนบนส้น เหวี่ยงขาออกข้าง ย่อเข่า งอและเหยียดสะโพก โยกลำตัว
- ทำซ้ำๆ ในท่าเดิมอย่างละ 10 ครั้งทั้งซ้ายและขวา
- ควรทำทุกวันหรืออย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์
- เหยียดยืดกล้ามเนื้อก่อนและหลังการออกกำลังกายแบบแอโรบิกด้วย
การออกกำลังกายแบบแอโรบิก ผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณ
ได้แก่ เ
- ดินวิ่งเร็วสักวันละครึ่งชั่วโมง การเต้นรำ การว่ายน้ำ หรือถีบจักรยานอยู่กับที่
- ไม่ควรออกกำลังกายที่ต้องออกแรงเกร็งหรือเบ่ง เช่น ยกน้ำหนัก หรือต้องออกแรงกระแทก โดยเฉพาะที่ข้อเข่า เช่น การนั่งยองๆ ขึ้นลงบันไดสูง กระโดด
- ไม่ควรออกกำลังกายในที่มีอากาศร้อน อบอ้าว แดดจ้า
- ถ้ามีอาการไม่สบายหรืออ่อนเพลีย ต้องงดออกกำลังกาย
การปฏิบัติ ออกกำลังกาย ผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณ มีหลายวิธี
- บริหาร การฝึกแรง กล้าม เนื้อ
- การฝึกความอดทน
- การเล่นกีฬา
- การใช้แรงกายในชีวิตประจำวัน
- งานอดิเรก
- ปฏิบัติเป็นประจำสม่ำเสมอวันละ 5-30 นาที
การกินอาหารในผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณ
- - สารอาหารที่ควรเสริม และได้รับในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน
- - ความอ่อนนุ่มของอาหาร และผลกระทบต่อการเคี้ยว การย่อย และการขับถ่าย
- ทำให้ผู้สูงอายุอาจมีภาวะขาดวิตามินบี 12
- คำนึงถึงความปลอดภัยทางอาหารสูงสุด
- การล้างวัตถุดิบ การเก็บรักษา ป้องกันการปนเปื้อนข้ามกันระหว่างวัตถุดิบที่ยังไม่ผ่านความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อหรือทำให้สุก กับอาหารที่พร้อมรับประทานแล้ว
- หากปรุงจำนวนมากเกิน “ควรแบ่งรับประทานออกมาตั้งแต่แรก” และแยกส่วนที่กินไม่หมดแช่ตู้เย็นเก็บไว้ ไม่ควรเก็บอาหารไว้ในตู้กับข้าวที่ไม่ควบคุมอุณหภูมิ
- ผู้ปรุงอาหารควรล้างมือให้สะอาดทั้งขั้นตอนปรุงอาหารและนำเสิร์ฟ
- คำนึงถึงความเหมาะสมในการตัก เคี้ยว กลืนของผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณ
- ไม่ควรมีส่วนที่เป็นอันตรายหากกลืนได้ เช่น ก้าง กระดูกหรือวัตถุดิบที่แข็งเกินไป ควรเป็นส่วนประกอบที่นิ่ม ไม่เหนียวเกินไป เคี้ยวได้ง่าย ชิ้นไม่ใหญ่จนเกินไป
- ลดหวาน มันและเค็มลง
- การเพิ่มปริมาณเครื่องปรุงให้รสจัดขึ้น จะเป็นผลเสียต่อสุขภาพ
- ให้ใช้การปรุงอาหารที่อิงเครื่องเทศ สมุนไพรเป็น เพราะวัตถุดิบเหล่านี้จะมีปริมาณโซเดียม ไขมันและน้ำตาลน้อยมาก และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อสุขภาพทุกคนอีกด้วย เช่น ตะไคร้ กระเทียม หอมใหญ หอมแดง กระชาย ใบกะเพรา โหระพา
- เพิ่มการกินผักและผลไม้ทุกชนิด
- ควรบริโภคธัญพืชไม่ขัดสี
- ปรับเปลี่ยนแหล่งโปรตีนให้หลากหลาย เช่น ปลา ถั่วต่างๆ เนื้อไก่ เนื้อหมูไม่มีมัน
- ดื่มนมวัววันละ 1-2 กล่องและ เลือกนมพร่องมันเนย
อากาศและสภาวะแวดล้อม ผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณ
ผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณ จำเป็นต้องอยู่ในที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ้าอยู่ในเมืองก็ควรมีระบบถ่ายเทอากาศดี หรือหาโอกาสไปพักผ่อนชนบท ชายทะเลหรือบนเขาบ้าง
งานอดิเรก
ผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณ ควรมีกิจกรรมการงานเล็กๆ น้อยๆ ไม่ควรปล่อยให้ว่างมากเกินไป
มีกิจกรรมสร้างความเพลิดเพลิน เช่น การพบปะสังสรรค์ ร่วมกิจกรรมของชมรมต่างๆ
การทำกิจกรรมที่ชอบ ทำให้รู้สึกว่าตนเองนั้นยังมีประโยชน์ต่อสังคม
ผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณ ก็ยังคงมีความชื่นชอบในเรื่องต่างๆ เป็นส่วนตัว และอยากทำในระหว่างวัน เพื่อให้ไม่ว่างจนเกินไป ได้ทำสิ่งที่ชอบ และเป็นการพัฒนาตนเองอีกด้วย
งานอดิเรกทั่วไป ของ ผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณ
- อ่านหนังสือ ตั้งใจจะอ่านหนังสือให้ได้สัปดาห์ละ 3 เล่ม
- ดูหนัง ดูหนัง แล้วจดบันทึกสรุปว่าหนังเรื่องนั้นพูดถึงอะไร
- ฟังเพลง
- เลี้ยงสัตว์
- ปลูกต้นไม้
- เรียนทำอาหาร
- ทำขนม
- เรียนจัดดอกไม้
- วาดรูป
- เล่นดนตรี
- ทำงานประดิษฐ์
- ช่วยพัฒนาความจำ
- เสริมสร้างความรู้
- พัฒนาสมองอยู่เป็นประจำ ทำให้ไม่เสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์เร็ว
ผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณ โดยเริ่มต้นทำงานอดิเรก จากวิธีการต่างๆ
- ให้มีการไปเรียนเป็นคอร์ส
- หัดทำตามในอินเตอร์เน็ต
- สามารถเก็บไว้เป็นผลงานที่ภาคภูมิใจได้
- ช่วยให้ผู้สูงอายุมีอะไรทำในเวลาประจำ ผ่อนคลาย
- ความภูมิใจในอดีตที่ตนเคยทำมาก่อน
- ไม่มีเวลาคิดเล็กคิดน้อย
- สุขภาพจิตดีขึ้นอีกด้วย
- พบปะสังสรรค์เพื่อนๆ
- โดยให้ผู้สูงวัยมีการนัดรวมตัวกันตามโอกาสพิเศษต่างๆ หรือนัดเป็นหนึ่งวันของสัปดาห์หรือของเดือน
- ทำกิจกรรมสังสรรค์ที่สนใจเหมือนกัน เช่น
- นั่งดื่มกาแฟ
- ไปเที่ยวไหว้พระ
- ไปนั่งฟังเพลง
- ร่วมชมรมผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณย่อมๆ เพื่อทำกิจกรรมร่วมกันอยู่เป็นประจำ
- ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์
- เช่น จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่คนทั่วไปในสิ่งที่ตนเองมีความรู้ความสามารถ
- จัดกิจกรรมเพื่อหาเงินบริจาคให้กับมูลนิธิต่างๆ
- รวมไปถึงกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่างๆ
-
- ผู้สูงอายุ,ผู้อยู่ในวัยเกษียณ มีเวลาในแต่ละวัน ควรส่งเสริมให้ท่านได้ทำกิจกรรมที่เสริมสร้างและเป็นประโยชน์กับตนเอง ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้พัฒนาฝีมือ และยังได้พัฒนาสมองอีกด้วย
ที่มา : เครือข่ายคนไทยไรพุง โดย ผศ.พญ.พิมพ์ใจ อันทานนท์
thaihealth
thaiseniormarket